วัคซีนภูมิแพ้ (Allergen Immunotherapy) เสริมภูมิคุ้มกัน รักษาโรคภูมิแพ้หายได้

 
 
 

          โรคภูมิแพ้เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นอาการจาม น้ำมูกไหล คันตา ผิวหนังอักเสบ (Atopic dermatitis) หรือหอบหืด หลายคนอาจคิดว่าต้องทนอยู่กับภูมิแพ้ไปตลอดชีวิต แต่ปัจจุบันมีวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพอย่าง “การรักษาภูมิแพ้ด้วยวัคซีน” หรือ Allergen Immunotherapy”

           การรักษาภูมิแพ้ด้วยวัคซีน หรือ Allergen Immunotherapy  คืออะไร บทความนี้จะพาไปรู้จักวิธีการรักษาภูมิแพ้ด้วยวัคซีนอย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเองได้

 การรักษาภูมิแพ้ด้วยวัคซีน (Allergen Immunotherapy) คืออะไร?

          การรักษาภูมิแพ้ด้วยวัคซีน หรือ Allergen Immunotherapy คือการให้สารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกายทีละน้อย อย่างสม่ำเสมอเพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางภูมิคุ้มกัน และสามารถทนต่อสารภูมิแพ้นั้นได้ดีขึ้นซึ่งจะมีผลทำให้อาการของโรคภูมิแพ้ดีขึ้นหรือไม่เกิดอาการขึ้นอีก

           วิธีการนี้เปรียบเสมือนการ “ฝึกฝน” ระบบภูมิคุ้มกันให้คุ้นเคยกับสารก่อภูมิแพ้ ทำให้ร่างกายไม่แพ้หรือแพ้น้อยลงในที่สุด การรักษาด้วยวัคซีนภูมิแพ้เป็นเพียงวิธีเดียวที่สามารถแก้ไขสาเหตุของโรคภูมิแพ้ได้ ไม่ใช่เพียงแค่บรรเทาอาการเท่านั้น

 การทำงานของวัคซีนภูมิแพ้

  1. การสร้างภูมิคุ้มกัน : เมื่อได้รับสารก่อภูมิแพ้ในปริมาณน้อย ๆ ร่างกายจะค่อย ๆ สร้างภูมิต้านทานต่อสารนั้น ๆ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับภูมิต้านทาน

  2. การลดอาการ : การเพิ่มภูมิต้านทานจะช่วยลดอาการภูมิแพ้ในระยะยาว ทำให้ร่างกายทนต่อสิ่งที่แพ้ได้ดีขึ้น

แนวทางรักษาภูมิแพ้ด้วยวัคซีน (Allergen Immunotherapy)

           การรักษาภูมิแพ้ด้วยวัคซีน (Allergen Immunotherapy) เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพและเป็นวิธีเดียวที่สามารถแก้ไขปัญหาภูมิแพ้ได้ที่ต้นเหตุอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่บรรเทาอาการชั่วคราว การรักษาด้วยวิธีนี้ทำให้ร่างกายสามารถสร้างความทนทานต่อสารก่อภูมิแพ้ได้ ส่งผลให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยไม่ต้องพึ่งพายาแก้แพ้ตลอดเวลา

           หากผู้ป่วยที่กำลังประสบปัญหากับโรคภูมิแพ้และต้องการทางเลือกการรักษาที่ยั่งยืน การรักษาด้วยวัคซีนภูมิแพ้อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา ปรึกษาแพทย์ด้านภูมิแพ้เพื่อประเมินความเหมาะสมและเลือกวิธีการรักษาที่ดีที่สุด

          ที่มา : โรงพยาบาลพญาไท