โรคลมชักในเด็ก คืออะไร

 
 
 

          โรคลมชัก (Epilepsy) เป็นความผิดปกติของระบบประสาทที่ทำให้เกิดอาการชักซ้ำ ๆ โดยไม่ได้เกิดจากสาเหตุกระตุ้น เช่น ไข้สูง หรือ การบาดเจ็บที่ศีรษะในทันทีสำหรับในเด็กการมีอาการชักเกิดขึ้นได้หลายลักษณะและสาเหตุ อาจส่งผลต่อพัฒนาการและคุณภาพชีวิตของเด็กได้ คุณพ่อคุณแม่ควรทำความเข้าใจเพื่อให้สามารถรับมือ ดูแล และป้องกันไม่ให้อาการของลูกแย่ลง

โรคลมชักในเด็ก คืออะไร

          โรคลมชักเป็นกลุ่มความผิดปกติของสมองที่เกิดจากการปลดปล่อยกระแสไฟฟ้าในสมองผิดปกติ จึงส่งผลให้เกิดอาการชักในรูปแบบต่าง ๆ ขึ้นกับตำแหน่งที่เกิด เช่น ชักแบบเกร็งกระตุกทั้งตัว ชักแบบเหม่อลอย หรือชักเฉพาะบางส่วนของร่างกาย ซึ่งในเด็กอาจแสดงอาการได้หลากหลายกว่าผู้ใหญ่ เพราะสมองยังพัฒนาไม่เต็มที่

สาเหตุของโรคลมชักในเด็ก 

          โรคลมชักในเด็กเป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติของการทำงานของเซลล์สมอง ส่งผลให้เกิดการชักหรืออาการผิดปกติทางระบบประสาทซ้ำ ๆ โดยสาเหตุของโรคสามารถแบ่งได้เป็นหลายกลุ่ม ดังนี้ 

  1. ปัจจัยพันธุกรรม เด็กบางคนอาจได้รับยีนผิดปกติที่ส่งผลต่อการทำงานของเซลล์สมองทำให้เกิดภาวะชัก หรืออาจมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคลมชัก

  2. ความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด ความผิดปกติของสมองที่เกิดขึ้นตั้งแต่ในครรภ์ เช่น โครงสร้างสมองผิดปกติ สมองเจริญผิดรูป พบในกลุ่มเด็กที่มีโรคทางพันธุกรรมร่วม เช่น กลุ่มอาการ West Syndrome, Tuberous Sclerosis

  3. การบาดเจ็บทางสมอง การบาดเจ็บ อุบัติเหตุรุนแรงที่ศีรษะภาวะสมองขาดออกซิเจน เช่น การคลอดที่มีภาวะขาดออกซิเจน หรือการจมน้ำ

  4. การติดเชื้อในสมอง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) สมองอักเสบ (Encephalitis) หรือการติดเชื้อจากปรสิต เช่น พยาธิในสมอง

  5. ปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ เช่น ไข้สูง ภาวะขาดสารอาหาร วิตามิน หรือสารพิษบางชนิด บางครั้งไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ (โรคลมชักไม่ทราบสาเหตุ) ซึ่งเกิดได้บ่อยเช่นกัน

 อาการของโรคลมชักในเด็กที่พบได้บ่อย

  1. อาการชักเกร็งกระตุก (Generalized Tonic-Clonic Seizure)
    เด็กมักหมดสติทันที ร่างกายเกร็งแข็ง แล้วตามด้วยการกระตุกของแขน ขา เป็นจังหวะ อาจมีอาการกัดลิ้น กลั้นหายใจ ตัวเขียว ปัสสาวะหรืออุจจาระราด หลังชักอาจมีอาการอ่อนเพลีย ง่วงซึม หรือสับสน

  2. อาการเหม่อลอย หรือชักแบบขาดสติสั้น ๆ (Absence Seizure)
    เด็กจะหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียก เรียกไม่รู้ตัว บางครั้งเหมือนเหม่อลอยสั้น ๆ ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีแล้วกลับมาปกติ อาจเกิดวันละหลายครั้งจนส่งผลต่อการเรียนรู้  

  3. อาการชักเฉพาะที่ (Focal Seizure)
    มีอาการผิดปกติเฉพาะที่ เช่น กระตุกแขนขาข้างใดข้างหนึ่ง หรือมีอาการชา อาจมีการกระตุกแค่บางส่วน เช่น มือ แขน หรือขา เด็กอาจรู้สึกหวาดกลัว ได้ยินเสียงหรือเห็นภาพผิดปกติ บางครั้งอาจมีพฤติกรรมแปลก ๆ ชั่วขณะ เช่น ขยับปาก รูดเสื้อ เดินวน โดยไม่รู้ตัว

  4. อาการชักแบบกล้ามเนื้อกระตุก (Myoclonic seizure)
    กล้ามเนื้อกระตุกแบบเฉียบพลัน และรวดเร็ว มักเกิดที่แขนหรือขา คล้ายการสะดุ้ง แต่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ และไม่สามารถควบคุมได้

  5. อาการชักตอนหลับ (Nocturnal seizure)
    เด็กอาจมีอาการชักตอนกลางคืน เช่น กระตุกตัว หายใจแรง ตัวแข็ง บางครั้งจะเกิดอาการชักในช่วงหลับ ทำให้สังเกตได้ยาก และอาจตื่นมาด้วยอาการสับสน หรือจำเหตุการณ์ไม่ได้

          ที่มา : โรงพยาบาลพญาไท